ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการพัฒนาไปตามธรรมชาติ (Natural
Unfoldment)
ทิศนา แขมมณี (2547 : 47-48) ได้รวบรวมไว้ว่า
นักคิดคนสำคัญในกลุ่มนี้คือ รุสโซ (Rousseau) ฟรอเบล (Froebel) และเพสตาลอสซี (Pestalozzi)
นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อดังนี้
ความเชื่อเกี่ยวกับการเรียนรู้
1) มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความดี และการกระทำใดๆ เกิดขึ้นจากแรงกระตุ้นภายในตัวมนุษย์เอง (good-active)
2) ธรรมชาติของมนุษย์มีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้และพัฒนาตนเองหากได้รับเสรีภาพในการเรียนรู้
มนุษย์ก็จะสามารถพัฒนาตนเองไปตามธรรมชาติ
3) รุสโซมีความเชื่อว่าเด็กไม่ใช่ผู้ใหญ่ตัวเล็กๆ เด็กมีสภาวะของเด็ก
ซึ่งแตกต่างไปจากวัยอื่น การจัดการศึกษาให้เด็กจึงควรพิจารณาระดับอายุเป็นหลัก
4) รุสโซมีความเชื่อว่าธรรมชาติคือแหล่งความรู้สำคัญ
เด็กควรจะได้รับการเรียนรู้ไปตามธรรมชาติคือ การเรียนรู้จากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
จากผลของการกระทำของตน มิใช่การเรียนจากหนังสือ หรือจากคำพูดบรรยาย
5) เพสตาลอสซี มีความเชื่อว่า คนมีธรรมชาติปนกันใน 3 ลักษณะ คือ “คนสัตว์” ซึ่งมีลักษณะเปิดเผย เป็นทางของกิเลส “คนสังคม” มีลักษณะที่จะเข้ากับสังคมคล้อยตามสังคม และ “คนธรรม” ซึ่งมีลักษณะของการรู้จักรับผิดชอบชั่วดี คนจะต้องมีการพัฒนาใน 3 ลักษณะ ดังกล่าว
6) เพสตาลอสซี เชื่อว่าการใช้ของจริงเป็นสื่อในการสอน
จะช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ดี
7) ฟรอเบลเชื่อว่า ควรจะให้การศึกษาชั้นอนุบาลแก่เด็กเล็ก อายุ 3-5 ขวบ โดยให้เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง
8) ฟรอเบลเชื่อว่า การเล่นเป็นการเรียนรู้ที่สำคัญของเด็ก
หลักการจัดการศึกษา/การสอน
1) การจัดประสบการณ์เรียนรู้ให้แก่เด็กจะต้องมีความแตกต่างไปจากการจัดให้ผู้ใหญ่
เนื่องจากเด็กมีสภาวะที่ต่างไปจากวัยอื่นๆ
2) การจัดการศึกษาให้แก่เด็กควรยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง
ให้เสรีภาพแก่เด็กที่จะเรียนรู้ตามความต้องการและความสนใจของตน
เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้อย่างอิสระ
3) ลักษณะการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับเด็ก คือ
การจัดให้เด็กได้เรียนรู้จากธรรมชาติ และเป็นไปตามธรรมชาติ ได้แก่
3.1) ให้เด็กได้เล่นอย่างอิสระ
3.2) ให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง
3.3) ให้เด็กได้เรียนจากของจริงและประสบการณ์การจริง
3.4) ให้เด็กได้เรียนรู้จากผลของการกระทำของตน
4) การจัดประสบการณ์เรียนรู้ให้เด็กจะต้องคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลและความพร้อมของเด็ก
สยุมพร ศรีมุงคุณ (2554) ได้กล่าวไว้ว่า นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อว่า ธรรมชาติคือแหล่งเรียนรู้สำคัญ เด็กควรจะได้เรียนรู้ไปตามธรรมชาติ การใช้ของจริงเป็นสื่อในการสอนจะช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ดี การเล่นเป็นการเรียนรู้ที่สำคัญของเด็ก เด็กไม่ใช่ผู้ใหญ่ตัวเล็กๆ เด็กมีสภาวะของเด็ก ซึ่งแตกต่างไปจากวัยอื่น การจัดการศึกษาให้เด็กจึงควรพิจารณาระดับอายุเป็นหลัก การจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้เน้นการจัดประสบการณ์เรียนรู้ให้แก่เด็กจะต้องมีความแตกต่างไปจากการจัดให้ผู้ใหญ่ และยึดเด็กเป็นศูนย์กลางให้เสรีภาพแก่เด็กได้เรียนรู้ตามความต้องการและความสนใจของตน ให้เด็กได้เรียนรู้ตามธรรมชาติและเป็นไปตามธรรมชาติ โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลและความพร้อมของเด็ก
บุญเลี้ยง ทุมทอง (2554)
ได้รวบรวมทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการพัฒนาไปตามธรรมชาติ (Natural
Unfoldment) ว่า ทฤษฎีนี้มีประโยชน์ต่อการศึกษา
การจัดการศึกษาให้กับเด็กมีความแตกต่างจากผู้ใหญ่ และสิ่งที่มีความหมายมากคือ
แนวคิดที่ว่าเด็กที่มีอายุน้อยๆ จะเรียนรู้ได้ดีที่สุด
จากกิจกรรมการใช้สื่อรูปธรรม หากแนวคิดนี้ถูกนำไปใช้ในห้องเรียนและแนะนำผู้เรียนมากกว่าเป็นผู้สอน
โดยตรงตามทฤษฎีของเพียเจต์
สรุป จากการศึกษาค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลข้างต้นสรุปได้ว่า
ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการพัฒนาไปตามธรรมชาติ(Natural
Discipline) สามารถสรุปความเชื่อของนักคิดคนสำคัญในกลุ่มนี้
รุสโซ (Rousseau) ฟรอเบล (Froebel)
และเพสตาลอสซี (Pestalozzi)
ได้ว่าธรรมชาติคือแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญ มนุษย์มีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้และสามารถพัฒนาตนเองไปตามธรรมชาติ การจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้จึงเน้นการจัดประสบการณ์เรียนรู้ให้แก่เด็กมีความแตกต่างจากผู้ใหญ่ ยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง
ให้เด็กได้เรียนรู้ตามความต้องการและความสนใจของตนเอง เหมาะสมกับวัยและความพร้อมของเด็ก
ที่มา
ทิศนา แขมมณี. (2547). ศาสตร์การสอนองค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ.
ทิศนา แขมมณี. (2547). ศาสตร์การสอนองค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ.
พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพมหานคร :สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สยุมพร
ศรีมุงคุณ. (2554).https://www.gotoknow.org/posts/341272. [Online] เข้าถึงเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2561.
บุญเลี้ยง
ทุมทอง. (2554). การวิจัยการเรียนรู้ทางคณิตศาสตร์. โรงพิมพ์สหบัณฑิต : มหาสารคาม.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น